เรื่องราวของคุณแพทริค ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์เบอร์เกอร์คิง ประเทศไทย ผู้หลงใหลในธุรกิจร้านอาหาร และรักการลงทุนในคอนโดมิเนียม และนาฬิกาข้อมือ เพราะมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต ทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ในมุมของการทำงาน เขากลับต้องพบช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก จนถึงกับเสียสติเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำ แต่สุดท้ายมันกลับพาเขาไปสู่จุดสูงสุดที่ไมเนอร์ ฟู้ด แบบที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน

จุดเริ่มต้นของประสบการณ์การทำงานร้านอาหารของเขาเกิดขึ้นสมัยวัยรุ่นตอนที่เขาไปเรียนและทำงานที่สหรัฐอเมริกา เขามีโอกาสทำงานในร้านอาหารที่นั่น ทำให้เขารู้สึกว่า ตัวเขารักและชื่นชอบในธุรกิจอาหาร ที่ได้มอบความอร่อย และบริการลูกค้าให้มีรอยยิ้มกลับออกไป

เมื่อเขาได้เข้ามาทำงานที่ไมเนอร์ ฟู้ด เขาเริ่มต้นด้วยการเป็น Operations Manager ให้กับแบรนด์เบอร์เกอร์คิง และได้รับการพัฒนาความรู้ความสามารถจนได้โปรโมทเป็น Operations Director ถึงตอนนี้เขามั่นใจในความรู้ความสามารถที่ตัวเองมีและลาออกเพื่อไปทำงานที่ใหม่ ซึ่งทำให้เขาได้เห็นความจริงบางอย่างมากขึ้น

“พอออกไปทำงานที่อื่น 3 ปี พี่ก็ไปปล่อยความรู้ของเราให้คนอื่น แต่ไม่ได้ถูกเติมกลับเข้ามา”

เขาเล่าว่าตลอด 3 ปีเขาไม่ได้ถูกพัฒนาเพิ่มเติม และเริ่มคิดถึงการกลับมาที่ไมเนอร์ ฟู้ด และวันหนึ่งผู้บริหารของไมเนอร์ ฟู้ด ก็ติดต่อมาหาเขาเพื่อชวนเขากลับมา ดูแล้วชีวิตการทำงานของเขาเหมือนจะลงตัวและมีความสุขเมื่อได้กลับมาที่ไมเนอร์ ฟู้ดอย่างที่เขาต้องการ แต่เขากลับต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน!

“พี่รู้สึกตัวเองโง่มาก ถามตัวเองว่ากลับมาทำไม!”

คำพูดที่บ่งบอกความรู้สึกของเขาได้เป็นอย่างดี เมื่อเขาต้องเข้าประชุมกับผู้บริหารครั้งแรก แต่เขาไม่สามารถตอบคำถามเรื่องธุรกิจได้ ไม่สามารถพูดภาษาผู้บริหารได้ จนผู้บริหารที่ชวนเขากลับมาเริ่มสงสัยถึงความสามารถในตัวเขา
    
“เฮ้ย แพทริค คุณไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรจาก 3 ปีที่แล้วเลยนะ”

คำพูดจากผู้บริหารที่เสียดแทงเข้าไปในใจของเขา ทำให้เขาจิตตก สติแตกจนเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำทันทีเมื่อจบการประชุม เขาถามตัวเองว่ากลับมาทำไม และคิดแต่เพียงว่าถ้าใครโทรมาชวนไปทำที่อื่น จะไปทันที

แต่สถานการณ์นั้นก็คลี่คลาย เมื่อคุณปัทมาวลัย CPO ได้ให้คุณกัญญา CFO โทรมาถามด้วยความเป็นห่วง และคุณกัญญาก็ยินดีที่จะเป็นที่ปรึกษาและคอยสอนงานให้กับเขาตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว การที่เขาได้รับคำถามและการคอมเมนต์ที่รุนแรงแบบนั้น เป็นเพราะว่าเหล่าผู้บริหารของไมเนอร์ ฟู้ด ต้องการให้เขาพัฒนาขึ้นนั่นเอง

ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ หลังจากนั้นเขาได้กลับมาเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ผ่านวิธีการทำงานที่มีอิสระในการคิดและทำเพื่อบริหารแบรนด์เบอร์เกอร์คิงอย่างเต็มที่ วันหนึ่งเขามีความคิดที่จะเปิดร้านเบอร์เกอร์คิงแบบไดรฟ์ ทรู แม้จะโดนปฏิเสธจากผู้บริหารในการนำเสนอโปรเจคครั้งแรก แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ กลับมาทำการบ้านเพื่อไปนำเสนอให้กับผู้บริหารอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เข้าใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็ทำให้ผู้บริหารอนุมัติและปล่อยให้เขาไปลุยโปรเจคไดรฟ์ ทรูอย่างที่ต้องการ

“ธุรกิจจะอยู่ได้ ก็คือกำไร”

เขามุ่งมั่นลุยธุรกิจไดรฟ์ ทรูอย่างจริงจัง จนเปิดได้หลายสาขา และเขายังสร้างการเติบโตทางธุรกิจของเบอร์เกอร์คิง เพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็นเวลา 2-3 ปีติดต่อกัน ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาได้รางวัลไทเกอร์ อวอร์ด ในปี 2015 ซึ่งถือเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของไมเนอร์

“เรื่องลงทุนในคอนโด นาฬิกา และคน เป็นเรื่องที่สัมพันธ์กัน”

เขายอมรับว่าไมเนอร์ได้ลงทุนเพื่อพัฒนาตัวเขาตลอด 13 ปีที่ผ่านมาเป็นเงินหลักสิบล้านบาท ซึ่งเขามองว่าการลงทุนเพื่อพัฒนาคน ให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น ก็เปรียบเสมือนการลงทุนในคอนโดและนาฬิกา ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน