ไมเนอร์ ฟู้ดเปลี่ยน ‘คนธรรมดา’ ให้เป็น ‘เสือ’ ? ตอนที่ 1 Swensen’s Head of Customer Experiences
July 26, 2019
คุณปุ่น ชายหนุ่มผู้หลงใหลการทานของหวานและไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เด็ก และชอบไปตระเวนหาร้านอร่อย ๆ ทาน เรียกได้ว่าเป็นกูรูเรื่องของหวานและไอศกรีมก็ว่าได้
เขาได้มีโอกาสทำงานกับไมเนอร์ ฟู้ด และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจแบรนด์ไอศกรีมชื่อดังระดับโลกอย่างสเวนเซ่นส์และแดรี่ ควีน หลายคนคงคิดว่าชีวิตการทำงานของเขาน่าจะง่ายเพราะได้ทำงานกับสิ่งที่รัก แต่ในความจริงแล้วการทำงานที่นี่ มันคือจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนชีวิตของเขามาจนถึงทุกวันนี้
ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เขาเริ่มต้นจากการเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดให้กับแดรี่ ควีน เขาเริ่มโชว์ว่าตัวเองมีของด้วยการริเริ่มบลิซซาร์ดในวอฟเฟิ่ลโคนเป็นที่แรกในโลกจนประสบความสำเร็จมากมาย และผลงานชิ้นโบว์แดงคือสามารถขยายขนาดธุรกิจแดรี่ ควีนเพิ่มเป็นเท่าตัวตามคำท้าทายของผู้บริหาร ด้วยการกระหน่ำเปิดสาขามากถึง 300 สาขาภายใน 1 ปี! ซึ่งถือว่ามากที่สุดตั้งแต่เคยทำมา ความสำเร็จทั้งหมดที่เขาได้สร้างอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่ 2 ปีก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับการโปรโมทจากผู้บริหารให้มาดูแลแบรนด์ที่ใหญ่ขึ้นอย่างสเวนเซ่นส์
“มันหนักมากและเหนื่อยมาก ทำงานแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน ไม่รู้กี่วันไม่รู้กี่คืน”
นี่คือคำพูดที่บอกเล่าถึงความยากของการทำงานในช่วง 2 เดือนแรกของเขาเป็นอย่างดี ปัญหาและอุปสรรคในครั้งนี้ท้าทายตัวเขามากกว่าครั้งไหน ๆ เขาคนเดียวต้องทำงานแทนลูกน้อง 14 คนที่ลาออกพร้อมกันหมด ทำกำไรไม่ได้ รวมทั้งความท้าทายของผู้บริหารที่มีให้เขาอยู่ตลอด ทำให้เขารู้สึกถึงความกดดันที่มีอยู่รอบด้าน
ถึงตอนนี้อยู่ที่ตัวเขาแล้วว่าจะยอมแพ้ หรือสู้ต่อเพื่อเอาชนะทุกปัญหาที่เกิดขึ้น!
“ทุกครั้งที่เครียดจะไปกินไอศกรีม”
เขาได้บอกถึงเคล็ดลับในการผ่อนคลายจากความเครียด ที่ทำให้เขาได้มีเวลาและสติในการคิด วิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ผ่านรสชาติของไอศกรีมที่เขาชื่นชอบ เมื่อรวมกับจิตใจที่แข็งแกร่ง ได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากผู้บริหารที่คอยสอนเขาอยู่ตลอด และมอบอิสระในการทำงานให้เขาแบบเต็มที่ เขาก็เริ่มค่อย ๆ สร้างผลงานและความสำเร็จให้กับสเวนเซ่นส์ โดยเริ่มสร้างทีมใหม่ให้เต็มเพื่อพร้อมเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จ โดยเฉพาะในปี 2017 เขาผลักดันให้สเวนเซ่นส์ออกบิงซูเป็นครั้งแรก ซึ่งถือว่าทำกำไรและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม บางสาขาทำกำไรเมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 40%! ถึงตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงความฟินขั้นสุดจากการเปลี่ยนทุกปัญหาที่เจอในช่วงแรกมาเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจ
“ผมได้ learning หลายอย่าง และได้ grow up capabilities ขึ้นมาอีกสเต็ป”
เขายอมรับว่าการที่ผู้บริหารมอบความท้าทายยาก ๆ และคาดหวังความสำเร็จจากเขาในระดับสูง แม้มันจะโหดมากในตอนแรก แต่ถ้ามีทัศนคติที่ถูกต้อง สุดท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่พัฒนาให้ตัวเราเก่งขึ้นเกิดขีดจำกัดที่มี และเติบโตในเส้นทางการทำงานที่นี่อย่างรวดเร็ว
ด้วยผลงานที่สร้างความสำเร็จที่เป็นปรากฏการณ์ ทำให้เขาได้คัดเลือกให้รับรางวัลไทเกอร์ อวอร์ดส์ ซึ่งถือเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของไมเนอร์ ฟู้ด “สิ่งนี้ถือเป็นความภูมิใจที่สำคัญในชีวิต” เขาพูดถึงรางวัลนี้ด้วยความภูมิใจว่าวันนี้เขาสามารถก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำที่สร้างอิมแพ็คทางธุรกิจให้องค์กรเติบโตอย่างรวดเร็ว เหมือนประโยคที่เขาได้ทิ้งท้ายไว้ว่า
“ถ้าคุณเลือกไมเนอร์ คือเลือกการเติบโตอย่าง limitless ทั้งเรื่องงาน และตัวคุณเอง จบข่าว!”